วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2559

แปลเพลง London Queen - CHARLI XCX

*นำเนื้อหาออกไปพร้อมให้เครดิตด้วยน้า*

London Queen - CHARLI XCX

Right away from Holloway
I said "Mum, this isn't a holiday
Listen up, I ain't coming back
Till I can fill the shack up with all gold plaques."
Soon come, home run (wack!)
Locked out the park with a baseball bat
ไปให้ไกลจากฮอลลีวูด
ฉันเรียก แม่ นี่มันไม่ใช่วันหยุดนะ
ฟังให้ดีนะ ฉันจะไม่กลับไป
จนกว่าฉันสามารถอยู่กับโล่ทองทั้งหมด
ในเร็วๆนี้ มีเซ็กส์กัน พวกคนประหลาด!
ออกไปสวนสาธารณะกับไม้เบสบอล

When I'm driving on the wrong side of the road
I feel like JFK you know
ตอนฉันกำลังขับรถผิดเลนบนถนน
ฉันรู้สึกเหมือน JFK คุณรู้นี่

I never thought I'd be living in the USA
Doing things the American way
I never thought I'd be living in the USA
Living the dream like a London Queen
ไม่เคยคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ในอเมริกา
ทำสิ่งที่ชาวอเมริกันทำกัน
ไม่เคยคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ในอเมริกา
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน

Now I live in Hollywood
I can't stop even though I know I should
It feels so good, oh yeah, oh oh
ตอนนี้ฉันอาศัยอยู่ในฮอลลีวูด
ฉันไม่สามารถหยุดมันได้ถึงแม้ว่าฉันรู้ว่าควรทำ
มันรู้สึกดีมาก

When I'm driving on the wrong side of the road
I feel like JFK you know
ตอนฉันกำลังขับรถผิดเลนบนถนน
ฉันรู้สึกเหมือน JFK คุณรู้นี่

I never thought I'd be living in the USA
Doing things the American way
I never thought I'd be living in the USA
Living the dream like a London Queen
ไม่เคยคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ในอเมริกา
ทำสิ่งที่ชาวอเมริกันทำกัน
ไม่เคยคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ในอเมริกา
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน

I never thought I'd be living in the USA
Doing things the American way
I never thought I'd be living in the USA
Living the dream like a London Queen
ไม่เคยคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ในอเมริกา
ทำสิ่งที่ชาวอเมริกันทำกัน
ไม่เคยคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ในอเมริกา
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน

Living the dream like a London Queen
Living the dream like a London Queen
Living the dream like a London Queen
Living the dream like a London Queen
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน

I never thought I'd be living in the USA
Doing things the American way
I never thought I'd be living in the USA
Living the dream like a London Queen
ไม่เคยคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ในอเมริกา
ทำสิ่งที่ชาวอเมริกันทำกัน
ไม่เคยคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ในอเมริกา
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน

I never thought I'd be living in the USA
Doing things the American way
I never thought I'd be living in the USA
Living the dream like a London Queen
ไม่เคยคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ในอเมริกา
ทำสิ่งที่ชาวอเมริกันทำกัน
ไม่เคยคิดว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ในอเมริกา
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน

Living the dream like a London Queen
Living the dream like a London Queen
Living the dream like a London Queen
Living the dream like a London Queen
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน
อยู่ในฝันเหมือนกับเป็นราชินีลอนดอน


Holiday = วันหยุดนักขัตฤกษ์
Vacation = วันหยุดยาว
Weekend = วันหยุดสุดสัปดาห์
Day off = วันหยุดงาน หยุดเอง

Listen up แปลว่า ฟังให้ดี!/เงียบ!

ain't บางคนใช้ ain't แทน isn't กับ aren't ที่แปลว่า ไม่ได้เป็นหรือไมใช่

shack up อาศัยอยู่ร่วมกับ/อยู่กับ (คำไม่เป็นทางการ)
wack! คนนิสัยประหลาด (คำสแลง) คนที่มีพฤติกรรมแปลกจากผู้อื่น

Home Run หมายถึงการร่วมรักขั้นสมบูรณ์แบบ
Home Run การตีลูกที่ทำให้ผู้ตีสามารถทำแต้มโดยการวิ่งได้ครบรอบทั้ง4 เบสในกีฬาเบสบอล

JKFจอห์น เอฟ. เคนเนดี หรือ จอห์น ฟิตซ์เจอรัลด์ เคนเนดี เรียกกันทั่วไปว่า JKF เป็นประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา เจ้าของวาทะเปี่ยมไปด้วยจิตสำนึกหน้าที่ความรับผิดชอบของพลเมือง "จงอย่าถามว่าประเทศชาติจะให้อะไรแก่ท่าน แต่จงถามตัวท่านเองว่าท่านจะทำอะไรให้ประเทศชาติ"

แปลเพลง Sigala - Say You Do

*นำเนื้อหาออกไปพร้อมให้เครคิตด้วยน้า*

Sigala - Say You Do

When you say you love me to me, don't leave me, na na na
Now I got that feeling you without me will break my heart
Cause the sunlight's in my eye when you're out of sight
You could've seen me shine, I'll tell you one more time
เมื่อคุณพูดว่าคุณรักฉันแล้ว อย่าทิ้งฉันล่ะ
ตอนนี้ฉันกำลังรู้สึกว่าคุณไม่มีฉันจะทำให้ฉันเจ็บ
เพราะฉันไม่เห็นคุณเมื่อคุณไปไกลจากฉัน
คุณไม่สามารถเห็นฉัน ฉันจะบอกคุณอีกแค่ครั้งเดียวนะ

If you love me, love me like you say you do
Then you need to, do what you say you do
If you love me, love me like you say you do
Then you need to, love me like you say you do
หากคุณรักฉัน ก็รักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
จากนั้นคุณต้องการ ก็ทำอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
หากคุณรักฉัน ก็รักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
จากนั้นคุณต้องการ ก็ทำอย่างที่คุณบอกด้วยนะ

Do you love me? Love me like you say you do
Then you need to, love me like you say you do
Love me like you say you do
คุณรักฉันไหม รักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
จากนั้นคุณต้องการ ก็ทำอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
รักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ

Now you got me feeling bad, I'm slipping far away from you
And you're doing all the things I said that you should do
But it only last so long like the setting sun
So under these blue skies, I'll tell you one more time
ตอนนี้คุณกำลังรู้สึกแย่ ฉันกำลังหลุดลอยไปไกลจากคุณ
และทุกการกระทำของคุณที่ฉันบอกว่าคุณควรทำมัน
แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่แสนยาวนานเหมือนพระอาทิตย์
ใต้ท้องฟ้าสีครามนี้ ฉันจะบอกคุณอีกแค่ครั้งเดียว

If you love me, love me like you say you do
Then you need to, do what you say you do
If you love me, love me like you say you do
Then you need to, love me like you say you do
หากคุณรักฉัน ก็รักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
จากนั้นคุณต้องการ ก็ทำอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
หากคุณรักฉัน ก็รักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
จากนั้นคุณต้องการ ก็ทำอย่างที่คุณบอกด้วยนะ

Love me like you say you do
You gotta love me like you say you do
Say you do, say you do
Holla, holla, tell you what I want, yeah
Gotta, gotta love me like you should, yeah
Holla, holla, tell you what I need, yeah
Gotta love me like you say you do
รักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
คุณต้องรักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
ทำซิ ทำอย่างที่บอก
เฮ้ เฮ้ บอกคุณให้นะอะไรที่ฉันต้องการ ใช่แล้วล่ะ
ต้องรักฉันซิ ต้องรักฉันอย่างที่คุณควรทำ ใช่แล้วล่ะ
เฮ้ เฮ้ บอกคุณให้นะอะไรที่ฉันต้องการ
ต้องรักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ


If you love me, love me like you say you do
Then you need to, do what you say you do
If you love me, love me like you say you do
Then you need to, love me like you say you do
หากคุณรักฉัน ก็รักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
จากนั้นคุณต้องการ ก็ทำอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
หากคุณรักฉัน ก็รักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ

จากนั้นคุณต้องการ ก็ทำอย่างที่คุณบอกด้วยนะ

Do you love me? Love me like you say you do
Then you need to, love me like you say you do
คุณรักฉันไหม รักฉันอย่างที่คุณบอกด้วยนะ
จากนั้นคุณต้องการ ก็ทำอย่างที่คุณบอกด้วยนะ



holla สวัสดี ใช้ในการทักทายก็ได้
holla สุดยอด/ดี/เยี่ยม
holla at จีบ/มาหา/มาเจอกัน/การโทรกลับ
Holla back คำนี้ก็เป็นประโยคปิดการสนทนาหรือการบอกลาได้ด้วย

gotta = have got a + nous = มี(สิ่งของ)..
gotta = have got to + verb = ต้องทำ(บางอย่าง)


need กับ want ใช้ต่างกันยังไง
ทั้งสองเป็นคำกริยาแปลว่า ''ต้องการ'' 
Need เป็นความต้องการชนิดที่จำเป็นอย่างยิ่ง หรือ ขาดไม่ได้ หรือ ถ้าไม่มีอาจถึงตายได้
Want เป็นความต้องการแบบทั่วๆ ไป ไม่ถึงขั้นคอขาดบาดตาย

นอกจากนี้มาดูคำที่ก็แปลว่า ''ต้องการ'' กันบ้าง
Would like แปลว่า ''อยากจะ'' ถึงแม้ว่าความหมายจะคล้ายกัน แต่ถ้าต้องการพูดให้สุภาพ ขอแนะนำให้ใช้คำว่า ''Would like''
Wish คำนี้เป็นคำกริยา แปลว่า ''ต้องการ'' แต่เป็นความต้องการ ในแง่ ''ปรารถนา'' หรือต้องการอยากจะให้เป็นแบบนั้นแบบนี้ ซึ่ง ณ เวลาที่พูดนั้น เหตุการณ์นี้ ยังไม่ได้เกิดขึ้นนั่นเอง

ขอบคุณเนื้อหาความรู้คำศัพท์เพิ่มเติมจาก 
salangteen.wordpress.com
www.trueplookpanya.com
arjarnbomb.blogspot.com


วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559

แปลเพลง Lush Life - Zara Larsson

*แปลผิดพลาดตรงไหนข้ออภัยด้วยค่า ติมชมกันได้ค่ะ*
-- แปลเพลง Lush Life --

I live my day as if it was the last
Live my day as if there was no past
Doin' it all night, all summer
Doin' it the way I wanna
ฉันใช้ชีวิตราวกับว่ามันจะเป็นวันสุดท้าย
มีชีวิตราวกับไม่มีวันที่ผ่านๆมา
ทำมันตลอดคืน ตลอดหน้าร้อนนี้
ทำมันแบบที่ฉันต้องการ

Yeah I’mma dance my heart out ’til the dawn
But I won’t be done when morning comes
Doin' it all night, all summer
Gonna spend it like no other
ใช่แล้ว ฉันจะทำให้ใจเต้นตึกตักจนแทบทะลุออกมา จะทำมันจนรุ่งสางเลยล่ะ
แต่ฉันจะไม่ทำมันตอนเช้าหรอก
ทำมันตลอดคืน ตลอดหน้าร้อนนี้
จะทำมันแบบไม่เหมือนใคร

It was a crush
But I couldn’t, couldn’t get enough
It was a rush
But I gave it up
มันน่าหลงใหลนะ
แต่ยังหรอก ยังไม่พอ
มันรู้สึกกระชุ่มกระชวยดีนะ
แต่ฉันจะเลิกทำมัน

It was a crush
Now, I might have went and said too much
But that’s all it was
So I gave it up
มันน่าหลงใหลนะ
ตอนนี้ ฉันอาจต้องไปและอยากพูดจริงๆว่ามันมากเกินไป
แต่ทั้งหมดมันก็เป็นอย่างที่ว่าล่ะ
และฉันจะเลิกทำมัน

I live my day as if it was the last
Live my day as if there was no past
Doin' it all nite, all summer
Doin' it the way I wanna
ฉันใช้ชีวิตราวกับว่ามันจะเป็นวันสุดท้าย
มีชีวิตราวกับไม่มีวันที่ผ่านๆมา
ทำมันตลอดคืน ตลอดหน้าร้อนนี้
ทำมันแบบที่ฉันต้องการ

Yeah I’mma dance my heart out ’til the dawn
But I won’t be done when morning comes
Doin' it all nite, all summer
Gonna spend it like no other
ใช่แล้ว ฉันจะทำให้ใจเต้นตึกตักจนแทบทะลุออกมา จะทำมันจนรุ่งสางเลยล่ะ
แต่ฉันจะไม่ทำมันตอนเช้าหรอก
ทำมันตลอดคืน ตลอดหน้าร้อนนี้
จะทำมันแบบไม่เหมือนใคร

It was a crush
I kept saying I’mma stay in touch
But that thing went bust
So I gave it up
มันน่าหลงใหลนะ
ฉันยังคงบอกได้ ฉันยังติดต่ออยู่นะ (น่าจะสื่อว่ายังไม่ได้ห่างหายไปจากเรื่องนี้)
แต่นั่นมันให้ฉันไม่มีเงินจ่ายหนี้
และฉันจะเลิกทำมัน

No tricks, no bluff
I’m just better off without them cuffs
Yeah, the sun won’t set on us
Ooh-ooh-ooh-ooh, yeah
ไม่มีทริค ไม่ได้หลอก
ฉันว่าไม่มีพวกเขามันดีกว่า เหมือนกุญแจมือ
ใช่แล้วล่ะ พระอาทิตย์ก็จะไม่เห็นด้วยเราหรอก

Went low, went high
Still waters run dry
Gotta get back in the groove
I ain’t ever worry
จะต่ำหรือสูง
น้ำนิ่งไหลลึก
จะต้องกลับไปในหลุม (หมายถึงหลุมศพประมาณว่าทุกคนเกิดมาก็ต้องตายกันทุกคนค่ะ)
ฉันไม่กังวลเลย

Went low, went high
What matters is now
Getting right back in the mood
จะต่ำหรือสูง
ไม่ว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไร
กลับมาในอารมณ์เดิมเถอะ

I live my day as if it was the last
Live my day as if there was no past
Doin' it all night, all summer
Doin' it the way I wanna
ฉันใช้ชีวิตราวกับว่ามันจะเป็นวันสุดท้าย
มีชีวิตราวกับไม่มีวันที่ผ่านๆมา
ทำมันตลอดคืน ตลอดหน้าร้อนนี้
ทำมันแบบที่ฉันต้องการ

Yeah I’mma dance my heart out ’til the dawn
But I won’t be done when morning comes
Doin' it all night, all summer
Gonna spend it like no other
ใช่แล้ว ฉันจะทำให้ใจเต้นตึกตักจนแทบทะลุออกมา จะทำมันจนรุ่งสางเลยล่ะ
แต่ฉันจะไม่ทำมันตอนเช้าหรอก
ทำมันตลอดคืน ตลอดหน้าร้อนนี้
จะทำมันแบบไม่เหมือนใคร

Now I've found another crush
The lush life's given me a rush
Had one chance to make me blush
Second time is one too late
ตอนนี้ฉันค้นพบความหลงใหลอันใหม่
ความเบ่งบานของชีวิตได้ให้ความสดชื่นแก่ฉัน
มีหนึ่งโอกาสทำให้ฉันอาย
โอกาสที่สองเป็นหนึ่งในที่สายเกินไป

Now I've found another crush
The lush life's given me a rush
Had one chance to make me blush
Second time is one too late
ตอนนี้ฉันค้นพบความหลงใหลอันใหม่
ความเบ่งบานของชีวิตได้ให้ความสดชื่นแก่ฉัน
มีหนึ่งโอกาสทำให้ฉันอาย
โอกาสที่สองเป็นหนึ่งในที่สายเกินไป

I live my day as if it was the last
Live my day as if there was no past
Doin' it all night, all summer
Doin' it the way I wanna
ฉันใช้ชีวิตราวกับว่ามันจะเป็นวันสุดท้าย
มีชีวิตราวกับไม่มีวันที่ผ่านๆมา
ทำมันตลอดคืน ตลอดหน้าร้อนนี้
ทำมันแบบที่ฉันต้องการ

Yeah I’mma dance my heart out ’til the dawn
But I won’t be done when morning comes
Doin' it all night, all summer
Gonna spend it like no other
ใช่แล้ว ฉันจะทำให้ใจเต้นตึกตักจนแทบทะลุออกมา จะทำมันจนรุ่งสางเลยล่ะ
แต่ฉันจะไม่ทำมันตอนเช้าหรอก
ทำมันตลอดคืน ตลอดหน้าร้อนนี้
จะทำมันแบบไม่เหมือนใคร

Now I've found another crush
The lush life's given me a rush
Had one chance to make me blush
Second time is one too late
ตอนนี้ฉันค้นพบความหลงใหลอันใหม่
ความเบ่งบานของชีวิตได้ให้ความสดชื่นแก่ฉัน
มีหนึ่งโอกาสทำให้ฉันอาย
โอกาสที่สองเป็นหนึ่งในที่สายเกินไป

Now I've found another crush
The lush life's given me a rush
Had one chance to make me blush
Second time is one too late
ตอนนี้ฉันค้นพบความหลงใหลอันใหม่
ความเบ่งบานของชีวิตได้ให้ความสดชื่นแก่ฉัน
มีหนึ่งโอกาสทำให้ฉันอาย
โอกาสที่สองเป็นหนึ่งในที่สายเกินไป

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559

แปลเพลง Crazy - Shawn Mendes

*ด้วยความที่เราบังเอิญฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกใครหน่ะเพลงเพราะที่สำคัญหล่อใช้ได้เลยค่า55555 ด้วยความที่เพลงนี้ไม่มีใครแปลหรือเราหาไม่เจอเองก็ไม่รู้นะ เลยถือโอกาสฝึกแปลเองมันซะเลย แปลดีไม่ดียังไงขออภัยไว้ด้วยค่า แปลงูๆปลาๆโนะ*

*นำเนื้อหาออกไปพร้อมให้เครดิตด้วยน้า*
*แปลโดย nchnan*

                               Shawn Mendes - Crazy

Think I don't need a watch to tell the time
Think I don't need the sun to help me shine
Think I don't need a girl to be alright
Guess I didn't know
คิดว่าฉันไม่ต้องการนาฬิกาไว้บอกเวลา
คิดว่าฉันไม่ต้องการพระอาทิตย์เพื่อช่วยส่องแสงให้ฉัน
คิดว่าฉันไม่ต้องการผู้หญิงที่เข้าใจ
เดาได้เลยฉันน่ะไม่รู้หรอก

That I didn't need shoes on my feet
That I didn't need a bed to fall asleep
That I didn't need love to be complete
Guess I didn't know
ว่าฉันไม่ต้องการรองเท้า
ว่าฉันไม่ต้องการเตียงเพื่อจะนอนหลับ
ว่าฉันไม่ต้องการมีรักที่สมบูรณ์แบบ

That I just got this crazy feeling
I've been making someone wait for me, for me
ว่าฉันเพียงแค่มีความรู้สึกบ้าๆนี้
ฉันเคยทำให้บางคนต้องเฝ้ารอฉัน รอคอยฉัน

You're all I think about when I'm awake
Part of every night and every day
And everything's a mess when you're away
Now I know
คุณคือทั้งหมดที่ฉันนึกถึงเมื่อตอนตื่นนอน 
ทุกๆคืน ทุกๆวัน
และทุกๆอย่างมันมันวุ่นวายเมื่อคุณไม่อยู่
ตอนนี้ ฉันรู้แล้ว

All of this is getting really old
I'm having trouble sleeping on my own
Feeling like a house but not a home
I want you to know
ทั้งหมดนี้จะกลายเป็นเรื่องเก่าไปแล้วจริงๆ
ฉันมีปัญหากับการนอนของฉัน
รู้สึกเหมือนที่พักแต่ไม่ใช่บ้าน
ฉันอยากให้คุณรู้

That I just got this crazy feeling
I've been making someone wait for me, for me
และฉันเพียงแค่มีความรู้สึกบ้าๆนี้
ฉันเคยทำให้บางคนต้องเฝ้ารอฉัน รอคอยฉัน

Guess I need a watch to tell the time
Guess I need the sun to help me shine
And I really need you in my life
Now I know
เดาได้เลยฉันต้องการนาฬิกาเพื่อบอกเวลา
เดาได้เลยฉันต้องการพระอาทิตย์ช่วยส่องแสง
และฉันต้องการมีคุณในชีวิต

That you give me this crazy feeling
And you won't have to wait no more for me, for me
And I just got this crazy feeling
I've been making someone wait for me
และคุณได้ให้ความรู้สึกบ้าๆนี้
และคุณไม่รอฉันอีกต่อไปแล้ว ไม่รอฉันแล้ว
และฉันเพียงแต่รู้สึกถึงความรู้สึกบ้าๆนี้
ฉันเคยทำให้บางคนต้องเฝ้ารอฉัน รอคอยฉัน


วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2559

เวเนเซียหัวหิน

                 เวเนเซีย หัวหิน เป็นช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ที่สร้างขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นโครงการที่จำลองเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี มาไว้ที่เมืองไทย โดยภายในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสัมผัสความเป็นเวนิสได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีการจำลองจัตุรัสเซ็นต์มาร์ค (St. Mark Square) และหอระฆัง (Bell Tower) สัญลักษณ์ของเมืองเวนิส ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกมาไว้ที่ด้านหน้า โครงการ เพื่อเป็นลานกิจกรรมขนาดใหญ่ และจุดชมวิวอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นเวนิส คือ คลองแกรนด์คาแนล (Grand Canal) ความยาวกว่า 200 เมตร ที่มีเรือกอนโดลาล่องไปในบรรยากาศเสมือนอยู่ในเวนิสจริง ๆ ส่วนทางด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบอาคารในแต่ละโซนจะมีรูปแบบสีสันที่แตกต่าง กัน โดยล้อไปกับสถาปัตยกรรมในแต่ละเกาะของเมืองเวนิส ล้อมรอบด้วยการจัดวางภูมิทัศน์ที่งดงาม ประกอบด้วยสวนดอกไม้นานาพรรณ ลานน้ำพุ และงานประติมากรรมที่บ่งบอกความเป็นเวนิสอย่างแท้จริง 






  
เรียบเรียงโดย #baabinz

ฝรั่งเศสสั่งรื้อสะพานกุญแจ

                   เจ้าหน้าทางการของฝรั่งเศษทำการรื้อเหล่าบรรดากุญแจการที่นักท่องเที่ยวนำมาล็อคไว้ที่สะพานเพื่อเป็นการยืนยันความรักของพวกเขา ซึ่งสะพานนี้ได้ถือเป็นแลนด์มาร์คไปโดยปริยาย สาเหตุเพราะกลัวว่าสะพานจะไม่สามารถรับน้ำหนักไหวจากจำนวนแม่กุญแจที่เพิ่มมากขึ้นจึงกลัวว่าสะพานจะถล่มลง







ที่มา:chinadaily

อาคารที่สูงที่สุดในแอฟริกา!!




บริษัท Middle East Development ได้วางแผนโครงการก่อสร้างอาคารที่สูงที่สุดในแอฟริกา ซึ่งเมื่อดูจากภาพกราฟิกแล้วมีลักษณะคล้าย Barad-dûr หรือป้อมปราการดวงตาเซารอนแห่งมอร์ดอร์ จากนวนิยาย เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ อันเลื่องชื่อภาพเปรียบเทียบ Barad-dûr (ซ้าย) กับ Al Noor Tower (ขวา) 


อาคารนี้มีชื่อว่า อัล นูร์ (Al Noor) หรือ ป้อมปราการแห่งแสงสว่าง มีความสูง 540 เมตร วางแผนก่อสร้างที่เมืองคาซาบลังก้า ประเทศโมร็อกโก โครงการก่อสร้าง Al Noor Tower ได้รับเงินสนับสนุนจากท่าน Sheikh Tarek M. bin Laden เป็นอาคารที่ได้ชื่อว่า จะกลายเป็นความหวังของแอฟริกาเลยทีเดียว 




ยอดบนสุดของอาคารขาดเพียงแค่ดวงตาเซารอนเท่านั้น 




  
อาคารสูงนี้ออกแบบโดยบริษัทสถาปัยกรรมจากฝรั่งเศส Volade et Pistre ซึ่งกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสื่อหลายสำนักว่าถ้าบริษัทผู้ออกแบบไม่ได้อาศัยอยู่ในถ้ำถึงได้ไม่รู้จักดวงตาของเซารอนแล้วหล่ะก็ คงต้องเป็นแฟนตัวยงของนวนิยายเรื่อง ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ เป็นแน่แท้ หากโครงการนี้ก่อสร้างจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว แฟนๆ เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์ ทั่วโลกคงต้องหาโอกาสมาท่องเที่ยวแห่กันมาเยี่ยมเยียนอาคารแห่งนี้กันล้นหลาม

20 อันดับ คนรวยที่สุดในโลก ประจำปี 2015

มาดูกันว่าอันดับจะมีการขึ้นลงมากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับปี 2014 ไปดูกันเลย ซึ่งอันดับ1 Bill Gates ก็ยังคงครองแชมป์คนที่รวยมากที่สุดในปี 2015 นี้ไปอีกด้วยเช่นกัน
อันดับ 20-19 Larry Page, Sergey Brin อายุ: 41 บริษัท: Google มูลค่าทรัพย์สิน: $29.2 Billion แลร์รี เพจ ประธานกรรมการบริหารของบริษัทกูเกิลต่อจาก เอริก ชมิดต์ และ เซอร์เกย์ บริน ผู้ร่วมก่อตั้งกูเกิลร่วมกับแลร์รี เพจ ปัจจุบันกูเกิลมีพนักงงานกว่า 40,000 คนใน 40 ประเทศ และมีส่วนแบ่งในการใช้ Search Engine กว่า 65% ในตลาดโลก เลยติดอันดับมหาเศรษฐีร่วมกันไปเลย


อันดับ 18 Sheldon Adelson อายุ: 81 บริษัท: Casinos Las Vegas Sands มูลค่าทรัพย์สิน: $31.4 Billion เชลดอน อเดลสัน เจ้าพ่อคาสิโนระดับชาติชาวอเมริกัน ประธานใหญ่บริษัท คาสิโน ลาสเวกัส แซนด์ ซึ่งมีคาสิโนระดับชั้นนำทั้งในลาสเวกัส เกาะมาเก๊า และยังไม่หยุดความพยายามในการขยายอาณาเขตธุรกิจทั้งในยุโรปอย่างประเทศสเปน รวมไปถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกอีกด้วย

อันดับ 17 Li Ka-shing อายุ: 86 บริษัท: Cheung Kong มูลค่าทรัพย์สิน: $33.3 Billion ลี กา-ซิง อภิมหาเศรษฐีชาวฮ่องกงผู้ร่ำรวยที่สุดในเกาะฮ่องกง รวมทั้งเอเชียตะวันออก เขาทำธุรกิจหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ท่าเรือ, โรงแรม, อสังหาริมทรัพย์, ประกันชีวิต และโทรศัพท์มือถือ
อันดับ 16 Mark Zuckerberg อายุ: 30 บริษัท: Facebook มูลค่าทรัพย์สิน: $33.4 Billion มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอใหญ่ของ Facebook เครือข่ายสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่มีบัญชีผู้ใช้เกือบค่อนโลก รับรายได้เป็นกอบเป็นกำจากวิดีโอ โฆษณา และแบนเนอร์ของบรรดาสินค้าต่างๆ ที่ต้องมาอาศัยพลังของ Facebook ในการทำตลาด

อันดับ 15 Jeff Bezos อายุ: 51 บริษัท: Amazon.com มูลค่าทรัพย์สิน: $34.8 Billion เจฟ เบซอส ผู้ก่อตั้งและ ซีอีโอบริษัทจำหน่ายหนังสือออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ‘Amazon’ เขาคือหัวเรือใหญ่สำคัญของธุรกิจ ถึงแม้ว่าโทรศัพท์ Fair Phone สมาร์ทโฟนตัวแรกของ Amazon ทำท่าจะล่ม บวกกับแรงกดดันจากนักลงทุนช่วงปลายปี 2014 เจฟ เบซอสยังคงไม่หยุดอยู่กับที่ โดยหันเข้าไปทำธุรกิจด้านภาพยนตร์แทน

อันดับ 14 Michael Bloomberg อายุ: 73 บริษัท: Bloomberg LP มูลค่าทรัพย์สิน: $35.5 Billion ไมเคิล บลูมเบิร์ก ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีแห่งมหานครนิวยอร์กในช่วงปลายปี 2013 และยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Bloomberg LP ให้ข้อมูลข่าวสารด้านการเงิน โดยมีนักข่าวและบรรณาธิการข่าวกว่า 1,200 คน ประจำอยู่ตามสำนักงานใน 82 แห่งทั่วโลก มีช่องโทรทัศน์ทั้งหมด 10 เครือข่าย และออกอากาศมากถึง 7 ภาษา

อันดับ 13 Bernard Arnault อายุ: 66 บริษัท: LVMH มูลค่าทรัพย์สิน: $37.2 Billion เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ จ้าวแห่งอาณาจักรแบรนด์หรูระดับลักชัวรี่กว่า 60 แบรนด์อย่าง หลุยส์ วิตตอง, ดิออร์, เฟนดิ, จีวองชี่, เคนโซ่, มาร์ค จาค็อบ, บุลการี่ และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้ร่มเงาของบริษัท LVMH ที่เขากุมบังเหียนเป็นประธานบริษัท และแน่นอนว่าสิ้นค้าทั้งหมดของเขานั้นน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก

อันดับ 12-11 Alice Walton, S. Robson Walton อายุ: 65, 71 บริษัท: Wal-Mart มูลค่าทรัพย์สิน: $39.4, $39.1 Billion อลิซ วอลตัน และ เอส.ร็อบสัน วอลตัน พวกเขาคือหนึ่งในทายาทเจ้าของธุรกิจ Wal-Mart บริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ มีเครือญาติช่วยกันบริหารจนพี่น้องในตระกูลวอลตัน ติดอันดับบุคคลร่ำรวยที่สุดในประเทศตามกันมาเป็นพรวน

อันดับ 10 Liliane Bettencourt อายุ: 92 บริษัท: L'Oreal มูลค่าทรัพย์สิน: $40.1 Billion ลิเลียน เบตตองกูรต์ ลูกสาวของเอเตียน ชุลแลร์ (Etienne Schueller) ผู้ก่อตั้งธุรกิจความงามยักษ์ใหญ่สัญชาติฝรั่งเศส “ลอรีอัล” และกลายเป็นผู้ถือหุ้นหลักในที่สุด 
 
อันดับ 9 Jim Walton อายุ: 67 บริษัท: Wal-Mart มูลค่าทรัพย์สิน: $40.6 Billion จิม วอลตัน ลูกชายคนเล็กของ Sam Walton ผู้ก่อตั้งกิจการ Wal-Mart บริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาและอีกหลายสาขาในต่างประเทศ มีศักดิ์เป็นน้องสามีของ Christy Walton นอกจากนั้นจิม วอลตัน ยังนั่งเก้าอี้ประธานบริหารของธนาคารอาร์เวสต์ กวาดรายได้อย่างมหาศาลรั้งอันดับ 9 ในปี 2015 นี้

อันดับ 8 Christy Walton อายุ: 60 บริษัท: Wal-Mart มูลค่าทรัพย์สิน: $41.7 Billion คริสตี้ วอลตัน ภรรยาของ จอห์น วอลตัน ลูกชายของ แซม วอลตัน ผู้สร้างอาณาจักร Wal-Mart ซึ่งคริสตี้ได้รับหุ้นส่วนในกิจการห้าง Wal-Mart หลังจากสามีซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในปี 2005 ทำให้เธอกลายเป็นเศรษฐินี และสตรีที่รวยที่สุดในโลก

อันดับ 7-6 Charles Koch, David Koch อายุ: 79, 74 บริษัท: diversified มูลค่าทรัพย์สิน: $42.9 Billion ชาร์ลส์ โคช ประธานบริษัท diversified และ เดวิด โคช สองพี่น้องที่รับช่วงธุรกิจต่อจากบิดา ที่แต่เดิมทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันกลั่น ปัจจุบันได้แตกไลน์ธุรกิจไปสู่การขายท่อส่งน้ำมัน, โรงกลั่น, ปุ๋ย, ไฟเบอร์, โพลิเมอร์, ป่าไม้ และเคมีภัณฑ์ต่างๆ

อันดับ 5 Larry Ellison อายุ: 70 บริษัท: Oracle มูลค่าทรัพย์สิน: $54.3 Billion แลร์รี่ เอลลิสัน นักธุรกิจชาวอเมริกัน ซีอีโอของบริษัท Oracle ซึ่งเป็นบริษัทซอฟแวร์ยักษ์ใหญ่ของโลก จากนั้นผันตัวเองไปดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายเทคโนโลยี โดยให้ “มาร์ก เฮิร์ด (Mark Hurd) หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Oracle มาเป็นหัวเรือใหญ่แทน 
อันดับ 4 Amancio Ortega อายุ: 78 บริษัท: Zara มูลค่าทรัพย์สิน: $64.5 Billion อามันซิโอ ออร์เตกา ถึงชื่อจะไม่คุ้นหู หน้าจะไม่คุ้นตา แต่ถ้าพูดถึงแบรนด์ ZARA ต้องร้องอ๋อ!กันเป็นแถว เพราะเขาคือ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศสเปน และติดอันดับ 4 ของโลกในปี 2015 นี้ แต่กลับไม่ปรากฏอยู่บนพื้นที่สื่อมากเท่าที่ควร เพราะเขามีประโยคที่จำขึ้นใจว่า “คุณควรจะมีรูปปรากฏอยู่บนหนังสือพิมพ์แค่ 3 ครั้งเท่านั้นในชีวิต หนึ่ง เมื่อคุณเกิด สอง เมื่อคุณแต่งงาน และสาม เมื่อคุณตายจากไป”


อันดับ 3 Warren Buffett อายุ: 84 บริษัท: Berkshire Hathaway มูลค่าทรัพย์สิน: $72.7 Billion วอร์เรน บัฟเฟต เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 1930 ที่โอมาฮา, เนแบรสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาคือนักธุรกิจ และนักลงทุนผู้มีชื่อเสียงระบือนามไปทั่วทุกมุมโลก เรียกได้ว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขาคนนี้ ด้วยความชาญฉลาดในด้านการลงทุน จนถูกขนานนามว่า “ปราชญ์แห่งโอมาฮา”

อันดับ 2 Carlos Slim Helu อายุ: 75 บริษัท: Telecom มูลค่าทรัพย์สิน: $77.1 Billion คาร์ลอส สลิม เฮลู มหาเศรษฐีชาวเม็กซิกันเชื้อสายเลบานอน เจ้าของธุรกิจสื่อสารในเม็กซิโก เขาคือหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 
อันดับ1 Bill Gates อายุ: 59 บริษัท: Microsoft มูลค่าทรัพย์สิน: $79.2 Billion บิล เกตส์ นักธุรกิจชาวอเมริกัน และหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft ทั้งยังเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลของโลกคนหนึ่ง โดยการจัดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกนั้น บิล เกตส์ติดอันดับ 1 หลายปีติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 1996-2006 และหล่นอันดับไปไม่เกิน 1-2 อันดับหลังจากนั้น และปี 2015 นี้เขาก็กลับมานั่งบัลลังก์มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งที่สุดในโลกอีกครั้ง