วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

พบฟอสซิลไดโนเสาร์!!

พบซากฟอสซิลไดโนเสาร์กินพืชสายพันธุ์เดรดนอทคาดว่าเป็นขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยพบมา


รายงานข่าวจากบลูมเบิร์ก อ้างอิงจากรายงานทางวิทยาศาสตร์ที่พิมพ์เผยแพร่เมื่อ 4 ก.ย. พบซากฟอสซิล ซึ่งเป็นโครงกระดูกขนาดใหญ่ของไดโนเสาร์สายพันธุ์ "เดรดนอท (Dreadnoughtus)" โดยเป็นไดโนเสาร์ในกลุ่ม titosaurian sauropods ที่กินพืชและมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เมื่อราว 70 ล้านปีก่อน

ทั้งนี้ชื่อ Dreadnoughtus ถูกตั้งชื่อตามเรือรบที่มีชื่อเสียงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 บริเวณทางใต้ของพาตาโกเนีย ของอาร์เจนตินา ระหว่างปี 2005-2009


โดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเดรกเซล ในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐ ได้ค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ราว 45% ซึ่งรวมถึงส่วนของกระดูกสันหลังของไดโนเสาร์ที่มีส่วนหางยางถึง 30 ฟุต ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา โดยมีน้ำหนักราว 65 ตัน หรือมีน้ำหนักเท่ากับช้างแอฟริการวมกันจำนวน 12 ตัว และมีความยาวราวครึ่งหนึ่งของความยาวสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐานในการแข่งขันโอลิมปิก หรือราว 85 ฟุต

ทว่ายังมีข้อสงสัยจากหลักฐานโครงสร้างกระดูกที่พบ ที่แสดงให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตในอดีตที่พบนี้น่าจะตายตั้งแต่ยังไม่โตเต็มที่


การค้นพบนี้สร้างมุมมองใหม่แก่นักวิทยาศาสตร์ในประเด็นเรื่อง สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยเดินอยู่บนพื้นโลก โดยสร้างความเข้าใจในลักษณะกายวิภาคของสิ่งมีชีวิตดังกล่าว และการอยู่รอดของไดโนเสาร์กินพืชสายพันธุ์นี้

ด้าน เคนเนธ ลาโควารา รองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยเดรกเซล ผู้นำทีมสำเร็จ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ยังมีคำถามอีกมากมายเกี่ยวกับสปีชีส์ใหม่ใหญ่ยักษ์นี้ ไม่ว่าจะเป็น ไดโนเสาร์เหล่านี้กินอาหารอย่างไรเพื่อให้มีแคลอรีเพียงพอในการดำรงชีวิต การควบคุม อุณหภูมิร่างกาย ซึ่งการค้นพบฟอสซิลในครั้งนี้ จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบหาคำตอบของคำถามดังกล่าว ด้วยข้อมูลที่ยังไม่เคยทราบมาก่อนนี้

กระดูกหน้าแข้ง
ส่วนหาง

ลิทัวเนีย (Lithuania)

ลิทัวเนีย (Lithuania) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐลิทัวเนีย เมืองหลวงคือ กรุงวิลนีอุส (Vilnius)

ตั้งอยู่กลางทวีปยุโรป ทางฝั่งตะวันออกของทะเลบอลติก ทิศเหนือจรดลัตเวีย ทิศตะวันออกและทิศใตัจรดเบลารุส และทิศตะวันตกเฉียงใต้จรดโปแลนด์และรัสเซีย (แคว้นคาลินินกราด) เคยเป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย มี Lithuanian เป็นภาษาราชการ 80% ของประชากรใช้ภาษารัสเซีย

ลิทัวเนียประเทศแรกในโลกห้ามขายเครื่องดื่มชูกำลังให้เด็ก



ลิทัวเนียออกกฎหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า18ปี เป็นประเทศแรกของโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย เมื่อวันที่2พ.ย.ว่า นายอัลแมนทัส ครานาอุสคาส เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขลิทัวแถลงเมื่อวันเสาร์ว่า ลิทัวเนียได้ประกาศใช้กฎหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า18ปี ซึ่งถือเป็นประเทศแรกของโลก หลังรัฐสภาลงมติผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีโทษปรับเป็นเงิน400ลิตัส(4,380บาท) ขณะที่ประเทศอื่นส่วนใหญ่มีเพียงคำเตือนเท่านั้น

ทั้งนี้จากผลสำรวจในลิทัวเนียซึ่งมีประชากร3ล้านคน พบว่าร้อยละ10ของเด็กนักเรียนที่ยังเป็นเยาวชนบริโภคเครื่องดื่มชูกำลังอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งนายครานาอุสคาสกล่าวว่า สารทอรีนและคาเฟอีนที่อยู่ในเครื่องดื่มชูกำลังบางประเภทสามารถทำให้เกิดภาวะอยู่ไม่นิ่งหรือไฮเปอร์แอคทีฟ และทำให้เสพติด ขณะที่นักวิทยาศาสตร์บางรายชี้ว่าสารดังกล่าวสามารถนำไปสู่การเสพยาเสพติดประเภทอื่นได้

ด้านห้างสรรพสินค้าแม็กซิมา ซึ่งเป็นห้างจำหน่ายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มประเทศบอลติก จะให้ความร่วมมือเปลี่ยนที่ตั้งสินค้าประเภทเครื่องดื่มชูกำลังให้อยู่ในจุดที่ลับตาคนมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจับตาดูและติดป้ายเตือนตามข้อกฎหมายที่ประกาศบังคับใช้ ส่วนผู้ที่ไม่เห็นด้วยเผยว่า มาตรการดังกล่าวไม่ใช่ทางออกของปัญหา อีกทั้งยังทำให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานของรัฐต้องเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์


อินเดียเปลี่ยนชื่อเมืองบังกาลอร์เป็นเบงกาลูรู



นับจากวันเสาร์ที่ 1 พ.ย.2557 เป็นต้นไป อินเดียเปลี่ยนชื่อเมืองบังกาลอร์ เป็นเบงกาลูรู หลังจากรัฐกรณาฏกะเสนอให้เปลี่ยนชื่อตามภาษาท้องถิ่นเมื่อ 8 ปีก่อน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลีประเทศอินเดีย เมื่อวันที่1 พ.ย.ว่าเมืองบังกาลอร์ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีในรัฐกรณาฏกะทางตอนใต้ของอินเดียจะเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น“เบงกาลูรู” นับจากวันเสาร์นี้เป็นต้นไปเนิ่นนาน 8ปีหลังจากรัฐกรณาฏกะเสนอให้มีการเปลี่ยนชื่อครั้งแรกโดยเบงกาลูรูเป็นชื่อเมืองในภาษาท้องถิ่นกันนาดาและนักการเมืองท้องถิ่นและนักประวัติศาสตร์กล่าวว่า บังกาลอร์เป็นชื่อภาษาอังกฤษที่ควรจะเลิกใช้ นอกจากนี้ชื่อของ 11เมืองอื่น ๆในรัฐกรณาฏกะซึ่งมีบังกาลอร์ เป็นเมืองเอกจะถูกเปลี่ยนตามด้วยเช่นกัน




India - Bangalore


เมืองบังกาลอร์มีประชากรประมาณ 6.5ล้านคนและจำนวนประชากรหนาแน่นเป็นอันดับที่3ของประเทศเป็นเมืองที่รู้จักกันในนามของ“TheGarden City” เนื่องจากเป็นเมืองที่มีต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุกว่าร้อยปีมีสวนสาธารณะแทรกอยู่เกือบทุกแห่งในเมืองมีความร่มรื่นเขียวขจีของต้นไม้ตลอดสองข้างทางของเมือง



และที่สำคัญ บังกาลอร์ถือว่าเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีและการศึกษาจนได้รับการขนานนามว่า“ซิลลิคอน วัลเลย์ ออฟ อินเดีย”(SilliconValley of India)เป็นแหล่งรวมอุตสาหกรรมด้านไอทีและซอฟแวร์หลายร้อยบริษัทสร้างรายได้เป็นอันดับหนึ่งให้กับอุตสาหกรรมส่งออกซอฟต์แวร์ของประเทศมีมูลค่ามากกว่า 10,000ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

อินเดียเปลี่ยนชื่อเมืองบ

ทางด้านการศึกษามีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากมายเช่นมหาวิทยาลัยบังกาลอร์(BangaloreUniversity) ซึ่งเป็นสถาบันที่ผลิตบุคคลากรที่มีความสามารถด้านไอทีที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา

ยานฟีเลส่งสัญญาณล่าสุดกลับโลก



ยานสำรวจ "ฟีเล" ส่งสัญญาณการติดต่อครั้งล่าสุดกลับมายังโลก หลังลงจอดบนดาวหางที่ไล่ตามมานาน 1 ทศวรรษได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ประเด็นแบตเตอรีที่อ่อนกำลังลงทุกขณะกำลังสร้างความกังวลให้กับทีมงาน เนื่องจากดาวหางกำลังจะเดินทางผ่านจุดหมายสำคัญ คือดวงอาทิตย์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองดาร์มชตัดท์ ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ว่าองค์การอวกาศยุโรป ( อีซา ) รายงานสถานะล่าสุดของยานสำรวจฟีเล ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่บนดาวหาง 67 พี/เซอร์ยูมอฟ เจราซีเมนโก หลังลงจอดบนพื้นผิวของดาวที่ไล่ติดตามานานถึง 10 ปีได้สำเร็จเมื่อวันพุธ ว่ายานสำรวจสามารถกลับมารับ-ส่งสัญญาณกับยานโรเซตตาได้อีกครั้ง ซึ่งส่งคลื่นการติดต่อกลับมายังโลก เมื่อเวลาราว 23.00 น. ตามเวลามาตรฐานสากล ( 06.00 น. วันเสาร์ ตามเวลาในประเทศไทย )


อย่างไรก็ตาม จนถึงเวลานี้ทีมงานของอีซายังไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนของยานฟีเลได้ มีเพียงภาพชุดล่าสุดที่ยานส่งกลับมายังโลกทำให้ผู้เชี่ยวชาญสันนิษฐานได้เพียงว่า ยานลงจอดในบริเวณที่มีลักษณะคล้ายหน้าผาชันเท่านั้น และกำลังขุดสำรวจพื้นผิวในจุดดังกล่าวเพื่อเก็บตัวอย่างและบันทึกภาพ

ขณะเดียวกัน ทุกฝ่ายยังยอมรับด้วยว่า อาจเป็นการสายเกินไปที่จะชาร์จแบตเตอรีเพื่อต่ออายุการทำงานของยานสำรวจให้นานขึ้น แต่ทีมงานหวังว่า จะสามารถติดต่อกับยานฟีเลได้อีกอย่างน้อย 2-3 เดือน เนื่องจากหาง 67 พี/เซอร์ยูมอฟ เจราซีเมนโก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว 4 กิโลเมตร กำลังเดินทางด้วยความเร็ว 18 กิโลเมตรต่อวินาที และอาจเคลื่อนที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ปัจจุบันดาวหางดวงนี้อยู่ห่างจากโลกราว 510 ล้านกิโลเมตร

ยูเอ็นคุ้มครองสัตว์อีก 31สายพันธุ์

หน่วยงานคุ้มครองสัตว์ป่าของสหประชาชาติ เพิ่มรายชื่อสัตว์ที่ได้รับการคุ้มครองอีก 31 สายพันธุ์ รวมทั้งหมีขั้วโลก ฉลาม และวาฬ


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่10พ.ย.ว่า หมีขั้วโลก วาฬ ฉลาม และละมั่ง กลายเป็นส่วนหนึ่งของสัตว์31สายพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครองจากองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่าอพยพแห่งสหประชาชาติ(ซีเอ็มเอส)หลังมีการประชุมหารือกันอย่างเคร่งเครียดเป็นเวลา6วัน นอกจากนี้ ยังมีปลากระเบนและปลาฉนาก ที่ได้รับการคุ้มครองด้วย ซึ่งการคุ้มครองสัตว์เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม



  

แบรดนี แชมเบอร์ส์ เลขาธิการฝ่ายบริหารของซีเอ็มเอสบอกว่า สัตว์อพยพกลายเป็นประเด็นสำคัญของโลกในเวลานี้ ขณะที่ ผู้อำนวยการโครงการสิ่งแวดล้อมโลกบอกว่า การที่โลกให้ความสนใจคุ้มครองสัตว์ถือเป็นสิ่งสำคัญ และควรร่วมกันรับผิดชอบต่อการคุ้มครองสัตว์ป่า รวมทั้งโลกต้องร่วมมือกันจัดการภัยคุกคามต่อชีวิตสัตว์ป่า อย่างไรก็ตาม การประชุมซีเอ็มเอสครั้งต่อไปจะมีขึ้นที่ฟิลิปปินส์ในปี2560

ประเพณีการชนแก้วและการจับมือ

ประเพณีการชนแก้ว
 

 

การที่พวกเราต้องชนแก้วกันเวลาที่ดื่มเครื่องดื่มกัน ในขณะที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร นั้น มีเรื่องเล่ากันมาหลายเรื่อง อีกเรื่องที่น่าจะเป็นไปได้คือ

ในสมัยนั้น กษัตริย์และพวกขุนนางชั้นสูง มักจะให้ข้าทาสบริวาร จัดการแข่งขัน ตะลุมบอนกันขึ้นที่สนาม แต่ก่อนที่จะดวลกันนั้น ทั้งสองฝ่ายจะต้องดื่มเหล้าด้วยกัน แก้วหนึ่งก่อน และเพื่อแสดงให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่าในเหล้าไม่ได้ใส่ยาพิษ ทั้งสองฝ่าย จะนำเหล้าในแก้วของตนรินให้ฝ่ายตรงข้ามเล็กน้อยก่อนดื่ม ประเพณี ที่ว่านี้ ค่อย ๆ สืบทอดต่อกันมา และกลายเป็นประเพณีการชนแก้วตามงานเลี้ยง ที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน

ประเพณีการจับมือ



การจับมือเป็นประเพณีที่เราคุ้นเคยกันในชีวิตประจำวัน ประเพณีนี้มีขึ้นในสมัย ที่คนอาศัยการล่าสัตว์ และการเพาะปลูกดำรงชีวิต สมัยนั้น เวลาที่พวกเขาล่าสัตว์ และต่อสู้กัน มักจะถือก้อนหิน ไม้ หรืออาวุธต่าง ๆ ไว้ในมือ เพื่อป้องกันการถูกโจมตี จากผู้อื่นหรือสัตว์ป่า แต่เมื่อพบคนแปลกหน้า ถ้าหากต่างฝ่ายไม่มีเจตนาร้ายต่อกัน ก็จะวางของที่ถืออยู่ในมือลง แล้วยื่นมือออกไปให้ฝ่ายตรงข้ามสัมผัส เพื่อแสดงว่า ไม่ได้ถืออาวุธใด ๆ ประเพณีนี้ค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นประเพณีการจับมือที่นิยมกัน ในปัจจุบัน

มะเฟืองผลไม้ที่ไม่ธรรมดา!