วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ไททานิค

ไททานิค


อาร์เอ็มเอส ไททานิก หรือ เรือไททานิค (RMS Titanic) เป็นเรือโดยสารซึ่งจมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 หลังชนภูเขาน้ำแข็งระหว่างการเดินทางเที่ยวแรกจากเซาท์แทมป์ตัน สหราชอาณาจักร ไปนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา การจมของไททานิก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,514 ศพ และรอดชีวิตเพียง 706 คนซึ่งผู้ที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ก็มาจากจมน้ำและทนความเย็นของน้ำไม่ไหว และเรือชูชีพสำหรับการช่วยเหลือก็มีไม่พอ นับเป็นภัยพิบัติทางทะเลในยามสงบครั้งที่มีผู้เสียชีวิตมากครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

หลังเดินทางออกจากเซาท์แทมป์ตันเมื่อวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1912 ไททานิก ถูกเรียกที่เชอร์บูร์ก (Cherbourg) ในฝรั่งเศส และควีนส์ทาวน์ (ปัจจุบันคือ โคฟ, Cobh) ในไอร์แลนด์ ก่อนมุ่งหน้าไปทางตะวันตกมุ่งสู่นิวยอร์ก วันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1912 ห่างจากเซาท์แทมป์ตันไปทางใต้ราว 600 กิโลเมตร



ไททานิก ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งเมื่อเวลา 11.40 น. การชนแฉลบทำให้แผ่นลำเรือไททานิก งอเข้าในตัวเรือหลายจุดบนฝั่งกราบขวา และเปิดห้องกันน้ำห้าจากสิบหกห้องสู่ทะเล อีกสองชั่วโมง สามสิบนาทีต่อมา น้ำค่อยๆ ไหลเข้ามาในเรือและจมลง ผู้โดยสารและสมาชิกลูกเรือบางส่วนถูกอพยพในเรือชูชีพ โดยมีเรือชูชีพจำนวนมากถูกปล่อยลงน้ำไปทั้งที่ยังบรรทุกไม่เต็ม ก่อน 2.20 น. เล็กน้อย ไททานิก แตกและจมลงโดยยังมีอีกกว่าพันคนอยู่บนเรือ คนที่อยู่ในน้ำเสียชีวิตภายในไม่กี่นาทีจากภาวะตัวเย็นเกิน (hypothermia) อันเกิดจากการจุ่มในมหาสมุทรที่เย็นจนเป็นน้ำแข็ง ผู้รอดชีวิต 710 คนถูกนำขึ้นเรืออาร์เอ็มเอส คาร์พาเธีย (RMSCarpathia) อีกไม่กี่ชั่วโมงให้หลัง


ภัยภิบัติใหญ่ในครั้งนั้นนำมาซึ่งพัฒนาการหลักในความปลอดภัยในทะเล หนึ่งในมรดกสำคัญที่สุด คือ การจัดตั้งอนุสัญญาความปลอดภัยของชีวิตในทะเลระหว่างประเทศ (SOLAS) ใน ค.ศ. 1914


ซากไททานิคตั้งอยู่ประมาณ 370 ไมล์ (600 กิโลเมตร) ทิศตะวันออกเฉียงใต้ของชายฝั่งของนิวฟันด์แลนด์นอนอยู่ที่ความลึกประมาณ 12,500 ฟุต (3,800 เมตร) มันถูกค้นพบเมื่อ 1 กันยายน 1985 โดยฝรั่งเศสและอเมริกัน ร่วมมือกัน

 
































และเมื่อ 15 ปีก่อนผู้คนทั่วโลกเริ่มรู้จักเรื่องราวของผู้โดยสาร บางส่วนบนเรือ “ไททานิค” ผ่านภาพยนตร์ของผู้กำกับ James F. Cameron ซึ่งถ่ายทอดหายนะของเรือลำใหญ่ที่ได้ชื่อว่า เป็น สิ่งก่อสร้างเคลื่อนที่ได้ที่มีขนาดใหญ่สุดของโลกแห่งศตวรรษที่ 20 ภาพ หลายส่วนในภาพยนตร์มาจากเรื่องจริงของหลายชีวิตบนเรือ สำราญลำนั้น แม้กระทั่งฉากเรือไททานิคหลายฉากก็จำลองมา จาก ข้อเท็จจริงและของใช้จริงที่ขุดค้นขึ้นมาได้จากซากเรือที่นอนสงบนิ่งอยู่ใต้ท้องทะเลมานาน 73 ปี กว่าที่จะมีนักสำรวจไปพบเจอ





           


นับจากนั้นเรื่องราวของเรือไททานิคและชีวิตของผู้โดยสาร บนเรือลำนี้ก็ค่อยๆ ถูกเปิดเผย ผ่านเศษซากเรือและหลักฐานทาง วัตถุ ซึ่งถูกจัดแสดงเป็นนิทรรศการภายใต้ชื่อ “TITANIC The Artifact Exhibition” ภายใน 15 ปี นับตั้งแต่เริ่มจัดแสดงมีผู้เข้าชม มากกว่า 22 ล้านคนทั่วโลก

ในเอเชีย หลังจากที่นิทรรศการนี้เพิ่งจัดแสดงจบที่สิงคโปร์ เพียงไม่นาน ไทยก็เป็นชาติที่ 2 ที่ได้ชมนิทรรศการนี้ในประเทศตัวเอง ภายใต้ชื่อนิทรรศการว่า “100 ปี ไททานิค นิทรรศการแห่ง ประวัติศาสตร์โลก

รูปแบบเป็นการนำเสนอซากสิ่งของ จากเรือไททานิคที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี โดยบริษัท RMS Titanic เจ้าของเรือไททานิค เป็นผู้เดียวที่ได้รับอนุญาตให้เก็บกู้วัตถุและมีสิทธิ์ดูแลซากเรือไททานิค ตั้งแต่ปี 2537 ปัจจุบันสามารถเก็บกู้หลักฐานวัตถุมาได้กว่า 5,500 ชิ้น

pic cr.sanook.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น