“โปรไบโอติก” (Probiotics) อาจเป็นคำ ที่ฟังดูใหม่และไม่คุ้นหู แต่เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินกันมาบ้างแล้ว ถ้ากล่าวให้เข้าใจง่ายๆ โปรไบโอติกก็คือจุลินทรีย์ สุขภาพ ซึ่งจัดเป็นเชื้อแบคทีเรียที่เป็นมิตรกับร่างกาย และเป็นแบคทีเรียชนิดเดียวกับแบคทีเรียในน้ำนมแม่ นอกจากนี้ยังสามารถพบได้ตามส่วนต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณในช่องคลอด และสำไส้ใหญ่จะพบมากเป็นพิเศษ
ดังที่ทราบกันแล้วว่าในน้ำนมแม่มีประโยชน์มาก มาย หนึ่งในนั้นก็คือ หากเราเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก็จะไม่ต้องกังวลกับเรื่องการสร้างภูมิ คุ้มกัน เพราะทารกจะได้รับโปรไบโอติกทางปากและจมูกเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ ของทารกเอง จุลินทรีย์เหล่านี้จะเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นทวีคูณทันทีในกระเพาะอาหารและลำไส้ของทารก เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
โปรไบโอติกนั้นสามารถช่วยลดจำนวนการติดเชื้อในศูนย์รับเลี้ยงเด็กแรกเกิดได้ โดยได้ทำการวิจัยกับเด็กทารก 200 คน และพบว่าการให้โปรไบโอติกกับเด็กทารกทุกวันนั้นมีผลทำให้ทารกเหล่านั้นเป็นไข้และเป็นโรคท้องร่วงน้อยลง บทบาทของโปรไบโอติกนั้นจะช่วยในการป้องกันโรคและสร้างภูมิคุ้มกัน โดยจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคที่ติดไปกับอาหารเมื่อรับประทานเข้าไป ทำหน้าที่เหมือนทหารเฝ้าประตูเมืองป้องกันไม่ให้เชื้อโรคทะลุผ่าน เยื่อบุลำไส้เข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันอาการที่ร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสซึ่งมาจากอาหารประเภทนมได้ และเพิ่มความสามารถในการดูดซึมแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย รวมถึงวิตามินบี และกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ยังไม่สมบูรณ์ของทารกอีกด้วย
สรุปว่าหากทารกเกิดโดยวิธีธรรมชาติและการเลี้ยงดูด้วยนมแม่ก็คือการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดสำหรับทารก อย่างไรก็ตาม ถ้าแม่ไม่สามารถให้กำเนิดทารกได้โดยวิธีธรรมชาติ โปรไบโอติก ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง หรือถือเป็นอาหารเสริมที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางธรรมชาติสำหรับทารก แม่ควรจะศึกษาและหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องคุณค่าโภชนาการและอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของ โปรไบโอติก เพื่อที่จะสร้างสุขภาพที่ดีให้กับทารกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น